เครื่องหมายจราจร ประเภท เครื่องหมายบนพื้นทาง
1. เส้นแบ่งทิศทางจราจรปกติ Broken yellow line
หมายความว่า เป็นเส้นแสดงการแบ่งแยกการจราจรของรถที่มีทิศทางตรงกันข้าม ผู้ขับขี่ต้องขับรถด้านซ้ายของเส้น ยกเว้นในกรณีที่ต้องการเลี้ยวขวาหรือแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
2. เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง No overtaking division line
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถไปทางซ้ายของเส้นห้ามขับรถผ่ายหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
3. เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซงเฉพาะด้าน Double line with broken yellow line
หมายความว่า รถที่อยู่ด้านเส้นทึบห้ามผ่านหรือคร่อมเส้นทึบโดยเด็ดขาด ส่วนรถที่อยู่ด้านเส้นประ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยอาจแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น หรือข้ามเส้นดังกล่าวนี้ด้วยความระมัดระวัง
4.เส้นแบ่งช่องเดินรถ หรือ เส้นแบ่งช่องจราจร Broken white line
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถภายในช่องเดินรถ หรือช่องจราจร ห้ามขับรถคร่อมเส้นเว้นแต่จะเปลี่ยนช่องเดินรถ หรือช่องจราจร
5.เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ หรือ เส้นห้ามเปลี่ยนช่องจราจร Solid white line
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถภายในช่องเดินรถ หรือช่องจราจร ห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้น
6. เส้นแบ่งช่องเดินรถประจำทาง Bus lane line
หมายความว่า เป็นช่องเดินรถประจำทาง ห้ามรถประเภทอื่นเข้าไปในช่องเดินรถประจำทาง
7. เครื่องหมายเส้นห้ามจอด เว้นแต่หยุดรับ-ส่งชั่วขณะ Parking prohibited except temporary loading and unloading
หมายความว่า ห้ามจอดรถทุกชนิดระหว่างแนวเขตที่กำหนด เว้นแต่การหยุดรับ-ส่งคนหรือสิ่งของชั่วขณะซึ่งต้องกระทำโดยมิชักช้า
8. เครื่องหมายเส้นห้ามหยุดหรือจอดรถ No parking or no standing
หมายความว่า ห้ามหยุดรถหรือจอดรถทุกชนิดระหว่างแนวเขตที่กำหนดเป็นอันขาด
9. เส้นแนวหยุด Stop line
หมายความว่า เมื่อมีสัญญาณจราจรบังคับหยุด หรือป้ายหยุด ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นแนงหยุด และเมื่อได้รับสัญญาณจราจรให้ไป หรือเมื่อไม่เป็นเหตุให้กีดขวางการจราจรแล้ว ให้ผ่านเส้นแนวหยุดไปได้
10. เส้นให้ทาง Give way line
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง หากเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า หรือเป็นการกีดขวางการจราจร ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง และพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันท่วงทีเมื่อมีคนเดินข้ามทาง ณ ทางข้ามนั้น ในเขตทางข้ามที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือสัญญาณจราจรให้คนมีสิทธิข้ามไปก่อน ฉะนั้นขณะที่คนกำลังเดินอยู่ในทางข้าม ผูขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นแนวหยุดหรือเส้นให้ทาง และเมื่อคนเดินข้ามทางได้ข้ามไปแล้ว จึงจะเคลื่อนรถต่อไปได้
12. เส้นทะแยงห้ามหยุดรถ No stpping grid area
หมายความว่า ห้ามหยุดรถทุกชนิดภายในกรอบเส้นทะแยง ห้ามหยุดรถรถที่หยุดรอเพื่อเลี้ยวขวา
13.ลูกศร Straight,Left-Turn and Right-Turn arrow marking
หมายความว่า เมื่อปรากฏในช่องเดินรถหรือช่องจราจรใด ผู้ขับขี่ที่อยู่ในช่องเดินรถหหรือช่องจราจรนั้น ต้องปฏิบัติตามเครื่องหมายนั้น
14. ให้ทาง Give way
หมายความว่า ผู้ขับขี้ต้องขับรถให้ช้าลง ถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า หรือเป็นการกีดขวางการจราจร ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นให้ทาง
15. เขตปลอดภัย Safe zone
16. ช่องเดินรถมวลชน Car pool lane
หมายความว่า ช่องเดินรถ หรือช่องจราจร ที่มีเครื่องหมายช่องเดินรถมวลชนเป็นช่องเดินรถ หรือช่องจราจรสำหรับรถตามชนิดหรือประเภทที่กำหนด หรือรถที่มีจำนวนคนบนรถไม่น้อยกว่าที่กำหนด
17. เส้นช่องอดรถ Parking spaces
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องจอดรถถายในกรอบเส้นช่องจอดรถ ห้ามจอดรถคร่อมเส้นหรือทำให้ส่วนใดของรถล้ำออกไปนอกแนวที่กำหนด
18. ข้อความบังคับบนพื้นทาง Regulatory road surface markings
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามข้อความนั้นๆ
-ประเภทเตือน
1. เส้นขอบทาง Kerb lines
หมายความว่า เป็นแนวสุดขอบทางเดินรถ
2. เส้นแนวช่องจราจรผ่านทางแยก Traffic lanes at a junction
หมายความว่า ควรขับรถไปตามแนวช่องเดินรถ หรือช่องจราจรดังกล่าว
3. เส้นชะลอความเร็ว Rumble strips
หมายความว่า ควรขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง
4. เส้นทางรถไฟผ่าน Railway crossing
หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่าน ควรขับรถให้ช้าลงและเพิ่มความระมัดระวัง
มีลักษณะเป็นแถบสีขาวสลับสีดำ แสดงหรือทำให้ปรากฎที่ขอบคันหิน หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้เห็นขอบคันหิน หรือสิ่งกีดขวางนั้นๆได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หมายความว่า ผู้ใช้ทางควรปฏิบัติตามและระมัดระวังการใช้ทางใช้ช่องเดินรถ หรือช่องจราจรให้ถูกต้อง เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.dlt.go.th
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.dlt.go.th